หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้ด าเนินการจัดโครงการบริการ วิชาการทางกฎหมายสู่ชุมชน “การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสู่ชุมชนในเขตพื้นที่สามจังหวัด ชายแดนภาคใต้” ได้รับการอนุมัติให้ด าเนินโครงการ โดยใช้งบประมาณบ ารุงการศึกษา จ านวน 54,020 บาท มีวัตถุประสงค์1. เพื่อให้ความรู้กับเยาวชนและประชาชนในเรื่องกฎหมายที่มี ผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในชุมชน เพื่อเสริมองค์ความรู้ใหม่ให้แก่เยาวชนและประชาชน การศึกษาด้านกฎหมาย และเพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้รับความรู้ด้านกฎหมายและสามารถ น าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้กลุ่มเป้าหมายตามโครงการ คือ เยาวชนและประชาชน จ านวน 100 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์สถานที่ ห้องเทศบาลต าบลคอกช้าง นอกจากนี้ได้มีการประเมิน ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมอบรม โครงการบริการวิชาทางกฎหมายสู่ชุมชน “การเผยแพร่ความรู้ทาง กฎหมายสู่ชุมชนในเขตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ดังนี้ 1. เชิงปริมาณ 1.1 ผลผลิตของ โครงการ 1.1.1 จ านวนผู้เข้าร่วมโครงการ เยาวชนและประชาชน จ านวน 100 คน 1.2 ผลลัพธ์ของ โครงการ 1.2.1 จ านวนผู้เข้าร่วมโครงการบริการวิชาทางกฎหมายสู่ชุมชน เยาวชนและประชาชน จ านวน 100 คน มีความพึงพอใจในโครงการอยู่ที่ระดับ 4.23 ระดับมาก และมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1. ควรมีการจัดโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเพื่อสามารถวัดความส าเร็จและมีการน าโครงการไปใช้ ประโยชน์ต่อไป 2. ผู้รับผิดชอบโครงการควรติดตามผลการใช้ประโยชน์จากโครงการให้บริการ วิชาการอย่างต่อเนื่อง 3. ควรมีการประชาสัมพันธ์โครงการบริการวิชาของมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ให้กับประชาชน ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมโครงการ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ได้รับผลประโยชน์จากการด าเนินโครงการอย่างแท้จริง

-    เชิงปริมาณ    เยาวชนและประชาชนในเขตเทศบาลต    าบลคอกช้าง    จ    านวน    ๑๐๐    คน
-    เชิงคุณภาพ    เยาวชนและประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายทั้งทางแพ่งและ
อาญา    โดยสามารถน    าไปบูรณาการในการใช้ชีวิตประจ    าวัน

หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้จัดการเรียนการสอนเป็นไป ตามมาตรฐานปริญญานิติศาสตรบัณฑิตของสภาทนายความและตามข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2507 ข้อ 50 (2) โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตได้จัดให้มีการบริการ ทางวิชาการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายพื้นที่ โดยขยายขอบข่ายการให้บริการออกจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในเขตพื้นที่มัธยมศึกษาทั้ง 3 จังหวัด บ้านพัก เด็กชายจังหวัดยะลา หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตเห็นว่าการแก้ปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ประการหนึ่ง ได้แก่ การให้ความส าคัญกับการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเยาวชนถือได้ว่าเป็นทั้งรากฐานในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของพื้นที่ และ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสกระท าการอันเป็นความผิดทางกฎหมายอันจะน าไปสู่ความเสียหายต่อ บุคคลและสังคม ที่ผ่านมาการให้บริการวิชาการของหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัย ราชภัฏยะลา มักมีเข็มมุ่งไปที่กลุ่มเยาวชนในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดชายแดนใต้เสมอ เพื่อให้เยาวชน เหล่านี้ได้เข้าใจถึงบทบาทตนเอง มีความรับผิดชอบและรู้จักหน้าที่ของตนเอง ตลอดจนมีทัศนคติที่ ถูกต้องต่อสังคม และได้จากการรับความร่วมมือและผลตอบรับที่ดีจากเยาวชนทุกกลุ่มด้วยดีเสมอมา ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2564 นี้ หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตจึงได้ก าหนดให้มีการบริการ วิชาการทางกฎหมายสู่ชุมชน โดยขยายขอบข่ายการให้บริการทางวิชาการไปยังเยาวชนและ ประชาชนในเขตเทศบาลต าบลคอกช้าง สามารถขยายผลจากการเผยแพร่ความรู้ต่อเยาวชนกลุ่มอื่น ได้ จึงก าหนดให้มีการบริการวิชาการ ณ เทศบาลต าบลคอกช้าง อ าเภอธารโต จังหวัดยะลา ขึ้น เพื่อให้เยาวชนและประชาชนเหล่านี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายและสามารถน าไปประยุกต์ใช้ต่อไป

ชาวบ้านในเทศบาล  ตำบลคอกช้าง

ให้ความรุ้ทางกฎหมาย

นักศึกษามัธยมศึกษา        โรงเรียนนราสิกขาลัย        จังหวัดนราธิวาส        จำนวน        220        คน

ให้ความรู้ทางกฎหมาย

นักเรียนระดับชั้น        ปวช.        (ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ)        และ        ปวส.        (ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง)        จำนวน        220        คน

บริการวิชาทางกฎหมายให้แก่นักเรียนมัธยมปลาย ณ โรงเรียนเบตง วีระราษฎร์ประสาน อ.เบตง จ.ยะลา

นักเรียนมัธยมปลาย

1. เพื่อให้ความรู้กับเยาวชนและประชาชนในเรื่องกฎหมายที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในชุมชน 2. เพื่อเสริมองค์ความรู้ใหม่ให้แก่เยาวชนและผู้ที่สนใจการศึกษาด้านกฎหมาย 3. เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้รับความรู้ด้านกฎหมายและสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้

ชาวบ้านตำบลพร่อน
-เชิงปริมาณ  ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลพร่อน  จานวน  100  คน
-เชิงคุณภาพ  ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา  โดยสามารถนาไปบูรณาการในการใช้ชีวิตประจาวัน